แจงเหตุขอผ่าชันสูตรผู้เสียชีวิต “ถังสารเคมีมาบตาพุดแทงค์ระเบิด” รอบ 2

สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดระยองได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีการส่งศพผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไปชันสูตรรอบสองที่โรงพยาบาลตำรวจ

หลังญาติที่เดินทางจากจังหวัดเชียงราย เพื่อมารับศพกลับไปบำเพ็ญ​กุศลทางศาสนาที่บ้านเกิด ต้องวนรถกลับเพื่อนำศพไปส่งยังโรงพยาบาลตำรวจ

หลังได้รับการประสานงานจาก ตร.สภ.มาบตาพุด ทั้งที่เดินทางถึงจังหวัดอ่างทองแล้ว จนสร้างความกังขาให้กับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก โดยมีใจความบางช่วงบางตอน ระบุว่า

คดีนี้จำเป็นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าผู้ตายเสียชีวิตอย่างไร สาเหตุการตายเป็นอย่างไรให้ชัดเจน ประกอบกับเป็นการรักษาสิทธิของทายาทผู้เสียชีวิตที่จะใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนกับผู้ที่เกี่ยวข้องในภายหลัง

จึงมีความจำเป็นต้องส่งศพของผู้ตายไปผ่าตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายโดยละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจภูธรมาบตาพุดจึงได้ ประสานพนักงานสอบนสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ส่งศพของผู้ตายไปยังสถานบันนิติเวชวิทยาโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินคดีในคดีนี้เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบและรัดกุมต่อไปคำพูดจาก JOKER123

ส่วนที่จังหวัดเชียงราย เวลาประมาณ 19.10 น. รถกู้ภัยได้นำร่าง นายนพพร มาถึงยังวัดปูแกง อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งได้มีชาวบ้านจำนวนราว 30-40 คนมารอรับร่าง นายนพพร ขณะที่เปิดประตูรถตู้ นายพีรพงษ์ พี่ชายของนายนพพรได้โผเข้ามากอด นางปั๋น แม่ของนายนพพร และ นางสาวโสรยา ภรรยาของนายนพพร พร้อมทั้งปล่อยโฮร้องไห้กอดกันด้วยความเสียใจ

ด้าน นางสาวโสรยา ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดกับสามีตัวเองนั้น ตัวเองทราบข่าวจากอินเตอร์เน็ต จึงรู้ว่าเป็นโรงงานที่สามีทำงานอยู่ จึงได้โทรศัพท์ไปหานายนพพร แต่ไม่มีใครรับสาย จากนั้นได้โทรไปหาเพื่อนของสามีที่ทำงานที่เดียวกัน เพื่อนสามีจึงบอกให้รีบไปโรงพยาบาล สามีได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด

ส่วนทางบริษัทได้มีการติดต่อในส่วนเรื่องเยียวยาให้การช่วยเหลือมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงรายระเอียดอะไร เนื่องจากต่างฝ่ายยังยุ่ง ต้องรอให้งานศพเสร็จ และทางบริษัทจัดการทางบริษัทให้เรียบนร้อย และจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง